ในอนาคตอันใกล้ การคมนาคมในจังหวัดสมุทรสาคร จะมีทางเลือกที่หลากหลายยิ่งขึ้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 ก. พ. มีมติเห็นชอบให้กรมทางหลวงเดินหน้าก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 82 สายบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว หรือ "ทางยกระดับพระรามที่ 2" ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ระยะทาง 16. 4 กิโลเมตร วงเงิน 19, 700 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรบนถนนพระราม 2 เชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทางและการขนส่งสินค้าระหว่างกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลงสู่ภาคใต้ของประเทศ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และยังเป็นเส้นทางส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคใต้ กระจายรายได้ไปยังภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ยกระดับขีดความสามารถของประเทศอย่างยั่งยืน โดยเป็นทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 ขนาด 6 ช่องจราจรไป-กลับ ระหว่าง กม. 20+295 ก่อนถึงทางแยกต่างระดับเอกชัย พื้นที่ ต. คอกกระบือ อ. เมืองฯ ถึง กม. 36+645 ก่อนถึงสามแยกบ้านแพ้วประมาณ 2 กิโลเมตร พื้นที่ ต. บางกระเจ้า อ. เมืองฯ พร้อมด่านเก็บค่าผ่านทาง 4 จุด ได้แก่ ด่านมหาชัย 2 ด่านสมุทรสาคร 1 ด่านสมุทรสาคร 2 และด่านบ้านแพ้ว การก่อสร้างจะเชื่อมต่อโดยตรงกับโครงการทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี-ปากท่อ (ถนนพระราม 2) ช่วง ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทาง 10.
อยู่ระหว่างพิจารณาเตรียมนำเสนอโครงการต่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบรูปแบบการดำเนินโครงการ และประกาศเชิญชวนและคัดเลือกเอกชน ภายในปี 2564 โดยพบว่าแนวเส้นทางแม้จะไม่ผ่านจังหวัดสมุทรสาครโดยตรง แต่ผ่านถนนพระราม 2 (ด่านปากท่อ) อ. ปากท่อ จ. ราชบุรี และผ่านถนนบ้านแพ้ว-พระประโทน (ด่านตลาดจินดา) อ. สามพราน จ. นครปฐม ซึ่งจะเชื่อมต่อกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 (บางใหญ่-กาญจนบุรี) ที่ทางแยกต่างระดับนครชัยศรี ไปยังโซนบางใหญ่ โซนนนทบุรี และโซนกรุงเทพฯ เหนือ ส่วนโครงการที่รอการพัฒนา ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 91 สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 ด้านตะวันตก (มหาชัย-บางปะอิน) ระยะทาง 98 กิโลเมตร, โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายวงแหวนกาญจนาภิเษกด้านทิศตะวันตก (บางขุนเทียน-บางบัวทอง) ระยะทาง 38 กิโลเมตร -กิตตินันท์ นาคทอง-
00 – 16. 00 น. ณ หอประชุมอำเภอเดชอุดม อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้รับเกียรติจากท่านธรรมนูญ แจ่มใส นายอำเภอเดชอุดมเป็นประธานเปิดการประชุม มีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 16 คน >>> เวทีที่ 2: วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม 2564 เวลา 09. 00 – 12. ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอนาเยีย อำเภอนาเยีย จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้รับเกียรติจากท่านว่าที่ร้อยโทปฎิญญา บรรลุศิลป์ ปลัดอำเภอนาเยียเป็นประธานเปิดการประชุม มีผู้เข้าร่วมประชุม 31 คน และ >>> เวทีที่ 3: วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม 2564 เวลา 14. 00 – 17. ณ หอประชุมเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้รับเกียรติจากท่านอดิศักดิ์ นามวงค์ ปลัดอำเภอพิบูลมังสาหาร เป็นประธานเปิดการประชุม มีผู้เข้าร่วมประชุม 18 คน
777+300 – 777+600 ที่เป็นประเด็นปัญหาร้องเรียน ให้มีระดับใกล้เคียงผิวจราจรเดิม เพื่อลดผลกระทบกับพื้นที่ข้างเคียง โดยจะต้องเป็นไปตามหลักทางด้านวิศวกรรมความปลอดภัย และให้สำรวจตรวจสอบอย่างละเอียด และปรับปรุงแก้ไข ในทุกพื้นที่ตลอดทั้งโครงการ นอกจากนี้จะเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เพิ่มไฟฟ้าส่องสว่างในจุดเสี่ยงอันตราย เพื่อความปลอดภัยในเวลากลางคืนด้วย ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการร้องทุกข์ หรือข้อเสนอแนะ สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ทั่วประเทศ หรือสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรี 24 ชม. )
ร. บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ. ศ. 2535 และฉบับที่ 2 พ. 2561 ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อให้สอดคล้องกับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมข้างต้น ทั้งนี้ เพื่อให้การพัฒนาโครงการก่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่โครงการน้อยที่สุด ข่าวประชาสัมพันธ์
ที่ 14+487 บริเวณแยกอู่ตะเภา จังหวัดชลบุรี รวมระยะทาง 14. 47 กิโลเมตร เนื่องจากในปัจจุบันมีปริมาณการจราจรเพิ่มมากขึ้น ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง ทล. เล็งเห็นความสำคัญนี้ จึงดำเนินการก่อสร้างขยายเพิ่มช่องจราจรเดิมจาก 2 ช่องจราจร (ไป - กลับ) เป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษขนาด 4 ช่องจราจร (แบ่งทิศการจราจรฝั่งละ 2 ช่องจราจร (ไป - กลับ) ผิวจราจรเป็นแอสฟัลต์คอนกรีต ช่องจราจรกว้างช่องละ 3. 5 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้าง 2. 5 เมตร ไหล่ทางด้านในกว้าง 1. 5 เมตร พร้อมปรับปรุงเกาะกลาง ก่อสร้างสะพานข้ามแยกจำนวน 2 แห่ง คือ สะพานข้ามแยกเกษมพล ช่วง กม. ที่ 10+584 สะพานข้ามแยกตลาดสระแก้ว ช่วง กม. ที่ 12+850 พร้อมงานติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างตลอดเส้นทาง งบประมาณ 797, 566, 000 บาท เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรหนาแน่น ระบายรถจาก จังหวัดชลบุรี สู่จังหวัดระยอง ทำให้ประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวกและปลอดภัย ส่งเสริมการท่องเที่ยว เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและโลจิสติกส์ของภาคอุตสาหกรรม เติมเต็มโครงข่ายคมนาคมขนส่งในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ขยายโอกาสการค้าและการลงทุน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ช่วย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ของประเทศให้ตามนโยบายรัฐบาล
ปลายพระยา และ อ. อ่าวลึก จ. กระบี่ และ อ. พังงา จุดเริ่มต้นโครงการอยู่บนทางหลวงหมายเลข 44 ประมาณ กม. ที่ 29+738 (ถนนเซาท์เทิร์น) บริเวณบ้านโคกเจียก อ. กระบี่ แนวเส้นทางจะวางแนวออกจากถนนเซาท์เทิร์นมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ อ้อมลงมาทางด้านใต้ของเขาบางหมวย ตัดผ่านพื้นที่สวนปาล์มและทางหลวงหมายเลข 4035 (ถนนอ่าวลึก-พระแสง) ที่บริเวณบ้านปากน้ำ ตัดผ่านถนนทางเข้าอ่างเก็บน้ำคลองหยาบริเวณร่องเขาเกราะ ผ่านพื้นที่บริเวณบ้านปากหยา บ้านศรีพระยา และบ้านควรเศียร ตัดผ่านทางหลวงชนบทหมายเลข กบ. 1015 บริเวณบ้านช่องแบก ตัดอ้อมบริเวณด้านทิศใต้ของวัดเขาหัวสิงห์ ผ่านพื้นที่ตำบลนาเหนือบริเวณบ้านบางไทร และตำบลเขาใหญ่ บริเวณบ้านทุ่งสูง ตัดอ้อมไปทางด้านเหนือของวัดนาเหนือ ตัดผ่านทางหลวงหมายเลข 4040 (ถนนนาเหนือ-ปากลาว) ไปบรรจบกับแนวเส้นทางของโครงการทางเลี่ยงเมืองทับปุดที่เป็นของโครงในอนาคตของกรมทางหลวงที่มีการสำรวจและออกแบบรายละเอียดไว้แล้ว บริเวณบ้านไสเสียด มีระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้างประมาณ 1, 900 ล้านบาท โครงการได้ออก พรฎ. เวนคืนที่ดินแล้วเมื่อปี 2563 ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และมีแผนที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี พ.
89MB ดาวน์โหลด เอกสารสรุปโครงการฯ ปี 2561 เอกสารสรุปโครงการ งานศึกษาความเหมาะสมถนนสาย ง ผังเมืองรวมชุมชนปราณบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์ ที่ได้ศึกษาไปในปี พ. ศ. 2561 | 6. 5MB ดาวน์โหลด ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการประชุมรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศโครงการ) สรุปผลการประชุมรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศโครงการ) ดาวน์โหลด ดาวน์โหลดเอกสารแนะนำโครงการ เอกสารแนะนำโครงการ | 7 MB ดาวน์โหลด
17+400 ถึง กม. 21+500 (ก่อนถึงสะพานข้ามทางรถไฟ-มหาชัยเมืองใหม่) ค่าก่อสร้าง 794. 043 ล้านบาท ก่อสร้างโดย บริษัท เอ็ม. ซี. คอนสตรัคชั่น (1979) จำกัด แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 25 ต. 2563 ที่ผ่านมา ส่วนตอน 1 กม. 9+800 ถึง กม. 13+300 (บางขุนเทียน-เลยสุดเขต กทม. ) ค่าก่อสร้าง 707. 5 ล้านบาท ก่อสร้างโดย บริษัท บุญสหะการสร้าง จำกัด และตอน 2 (เลยสุดเขต กทม. -ก่อนถึงสะพานข้ามทางรถไฟ) กม. 13+300 ถึง กม. 17+400 ค่าก่อสร้าง 798. 555 ล้านบาท ก่อสร้างโดย บริษัท แสงชัยโชติ จำกัด คืบหน้ากว่าร้อยละ 80 แต่ติดสาธารณูปโภค โครงการสะพานกลับรถบนทางหลวงหมายเลข 35 ที่ กม. 34 (ขาออก) พร้อมทางขนาน (ปี 2562) วงเงิน 399. 5 ล้านบาท ก่อสร้างโดย ห้างหุ้นส่วนจำกัด นภาก่อสร้าง ซึ่งทางขนานยาวไปเกือบถึงทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว พบว่าใกล้จะแล้วเสร็จ แม้จะติดสาธารณูปโภคก็ตาม โดยกำหนดสิ้นสุดสัญญาเมื่อวันที่ 11 ก. 2564 ที่ผ่านมา แฟ้มภาพ อีกโครงการหนึ่งที่กำลังจะก่อสร้างในปีนี้ คือ ทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว (ปี 2564) เชื่อมระหว่างถนนพระราม 2 กับทางหลวงหมายเลข 375 (ถนนบ้านแพ้ว-พระประโทน) งบประมาณ 600 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างจัดทำราคากลาง โดยในปี 2564 ตั้งงบประมาณ 120 ล้านบาท ปี 2565 ผูกพันงบประมาณ 240 ล้านบาท และปี 2566 ผูกพันงบประมาณ 240 ล้านบาท ส่วนโครงการในอนาคต ได้แก่ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 8 สายนครปฐม – ชะอำ ระยะทาง 109 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 63, 998 ล้านบาท ปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร. )