ทำความสะอาดเล็บด้วยน้ำส้มสายชู ก่อนใช้น้ำยาทาเล็บหรือน้ำยาเคลือบเล็บ ให้นำสำลีมาชุบกับน้ำส้มสายชูที่หาได้ง่ายๆ จากก้นครัว จากนั้นจึงนำมาเช็ดที่เล็บและผิวหนังบริเวณเล็บให้ครบทุกนิ้ว โดยวิธีนี้จะเป็นการกำจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนเล็บและผิวหนังออกให้หมดจด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคหรือแบคทีเรีย ที่หากถูกทาทับด้วยน้ำยาทาเล็บแล้วอาจจะทำให้เชื้อโรคเหล่านั้นติดอยู่บนเล็บและอาจส่งผลให้ผิวหนังเกิดการคัน ระคายเคืองหรือติดเชื้อได้นั่นเอง 2. ห้ามสะบัดนิ้ว หลังจากที่สาวๆ ทาเล็บเสร็จเรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อไปก็คือ รอให้น้ำยาทาเล็บแห้ง แต่ในระหว่างนั้นสาวๆ หลายคนก็มักจะสะบัดนิ้ว เพื่อต้องการให้เล็บแห้งเร็วขึ้น ซึ่งวิธีการทำเช่นนี้อาจทำให้สารเคมีที่อยู่ในน้ำยาทาเล็บกระเด็นเข้าตาหรือโดนผิวหนังในส่วนอื่นๆ ได้ และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่างๆ ตามมา ทางที่ดีควรใช้พัดลมเป่าให้แห้งจะดีกว่าเพื่อความปลอดภัยของตัวเราและคนรอบข้างเช่นเดียวกัน 3. ห้ามสัมผัสกับผิวหนัง สิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับสาวๆ หลายคนในการทาเล็บก็คือ การหลงลืมและเผลอไปสัมผัสเข้ากับผิวหนังในส่วนอื่นๆ ในขณะที่น้ำยาทาเล็บยังไม่แห้งสนิท ซึ่งเรื่องนี้สาวๆ ต้องระวังให้ดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอวัยวะที่บอบบางหรือผิวหนังที่ใกล้กับบริเวณดวงตาเพราะหากเกิดอาการแพ้ อาจก่อให้เกิดผื่นแดง คัน หรืออาการระคายเคืองต่างๆ ตามมาได้ และหากเลวร้ายไปกว่านั้นคืออาจทำให้เกิดผิวหนังอักเสบหรือผิวหนังติดเชื้อขึ้นมาได้ 4.
ใช้มะนาวหั่นเป็นซีก มาขัดๆถูๆบนเล็บหลังล้างเล็บใครจะลองวิธีนี้ ควรแน่ใจว่าไม่มีแผลที่นิ้วนะคะ ไม่อย่างนั้นแสบแย่ 2. เอาสำลีชุบน้ำส้มสายชูแอ็บเปิ้ล (Apple cidervinegar) มาแปะทิ้งไว้บนเล็บซักพัก 3. (อันนี้ไม่เคยลองเองนะ)เอาสำลีจุ่มไฮเตอร์ มาถูๆบนเล็บเค้าว่ามันเห็นผลแต่ไม่ควรทำบ่อยเพราะจะทำให้หน้าเล็บบาง ก็ ลองไปทำตามดูนะคะแค่นี้เอง วิธีดูแลเล็บของเรา แม่หญิงเชอร์ทิ้งท้ายด้วยรูปสีเล็บต่างๆที่เคยทาแล้วคราวหน้า จะมาเล่าถึงการทาเล็บและเพ้นท์เล็บง่ายๆด้วยตัวเองค่ะ
เทรนด์แฟชั่นที่สาวๆ ให้ความสนใจกันอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา คือ การทำเล็บ ทั้งการต่อเล็บ หรือทำสีใหม่ โดยมีสีใหม่ และแฟชั่นรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นมามากมาย ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนเลือกแฟชั่นทำเล็บได้ตามความชอบของแต่ละคน แต่รู้มั้ย? ว่า การทำเล็บบ่อยๆ ก็อาจจะมีผลกระทบต่อสุขภาพของเล็บตามมาได้ เพื่อให้สาวๆ ที่ทำทาสีเล็บยังมีสุขภาพเล็บที่ดี สามย่านมิตรทาวน์ เลยอยากชวนเพื่อนๆ มารู้จักวิธีการดูแลเล็บให้มีสุขภาพดี พร้อมกับเลือกวิธีทำเล็บให้ปลอดภัย และมีสุขภาพแข็งแรง บอกเลยเป็นวิธีง่าย อยากรู้แล้วใช่มั้ยล่ะไปดูกันเลย สำหรับคำแนำแรกที่สาวๆ ควรรู้ไว้คือ การทำความรู้จักกับเล็บที่มีสุขภาพที่ดีนั่นก็คือ การเลือกสีทาเล็บที่มีสีออกชมพูจางๆ มีพื้นผิวเรียบ เพื่อให้ผิวหนังรอบเล็บมีความแข็งแรง ไม่ถอยร่นและมีความหนาไม่มากหรือ น้อยเกินไป ส่วนสาวๆ ที่ชื่นชอบไปร้านทำเล็บ ก็มี 7 ข้อควรระวังในการทำเล็บ ดังนี้ 1. หลีกเลี่ยงการโกนขนหน้าแข้งและที่เท้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนไปทำเล็บ 2. อย่าให้ช่างตัดหนังหรือดันผิวหนังที่โคนเล็บ 3. ถ้ามีแผลที่เท้าหรือเล็บผิดปกติ หรือเป็นหูดอย่าไปทำเล็บหรือขัดเท้า 4. ให้เล็บมีช่วงเวลาที่พักจากการทำสีบ้าง โดยเพื่อนๆ ที่มีการใช้เล็บปลอม ไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 3 เดือนและควรพักเล็บอย่างน้อย 1 เดือน 5.
รักษาความสะอาดของเล็บ ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำอุ่น เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและเชื้อโรคที่อยู่บนมือและเล็บ ในการล้างมือทุกครั้ง ควรถูสบู่บริเวณฝ่ามือ หลังมือ ง่ามนิ้ว และซอกเล็บ หากเล็บมีคราบสกปรก อาจใช้ผ้าขนหนูหรือแปรงขัดเล็บช่วยในการทำความสะอาดในบริเวณที่เข้าถึงยาก เช่น ใต้เล็บหรือหนังบริเวณโคนเล็บ หลังล้างมือทุกครั้ง ควรเช็ดมือให้แห้งด้วยผ้าขนหนูสะอาดหรือกระดาษชำระสำหรับเช็ดมือ 2. ตัดเล็บมือและเล็บเท้าให้สั้นอยู่เสมอ การปล่อยให้เล็บยาวเกินไปอาจเป็นที่สะสมของเชื้อโรค และทำให้เล็บเปราะหักได้ง่าย โดยใช้กรรไกรตัดเล็บค่อย ๆ ตัดเล็บเฉพาะส่วนสีขาวที่ยาวเกินออกมาจากปลายนิ้ว ตัดเป็นแนวตรงและเล็มเป็นแนวโค้งเล็กน้อยบริเวณมุมเล็บทั้งสองข้าง ไม่ควรตัดเล็บสั้นเกินไป เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการเกิด เล็บขบ ได้ 3.
วันนี้จะมาแบ่งปันวิธีดูแลเล็บของเราเองที่บ้านค่ะ สาวๆที่ชอบทาเล็บเพ้นท์เล็บมากเปลี่ยนสีทุกอาทิตย์ ก็ต้องดูแลกันหน่อย ไม่งั้นเล็บเหลืองจะมาเยือนแน่ๆ เลยต้องหัดทำเองที่บ้านค่ะก่อนอื่น มาเตรียมอุปกรณ์กันก่อน 1. น้ำยาล้างเล็บ ที่ไม่มี aceton และสำลี 2. กรรไกรตัดเล็บ และตะไบ 3. ครีมทามือ 4. วาสลิน (ปิโตรเลียมเจล) 5. เกลือและน้ำตาล 6. น้ำมันมะกอก 7.