ส่วน Size ที่แนะนำสำหรับการใส่รูปใน Logo Branch ควรมีความกว้าง หรือความสูง 60 X 60 px เพื่อความเรียบร้อย และสวยงาม Customize Zone ภาพที่ใช้ใน Customize สามารถใช้รูปภาพได้ตามความเหมาะสมกับเนื้อหา แต่สำหรับใน Customize รูปแบบที่ เป็น Layout ที่มีให้ใส่รูปภาพ มากกว่า 1 รูป ควรใช้ ภาพที่มีขนาดเท่ากันใน Zone เดียวกันเพื่อความสวยงาม เพียงเท่านี้เราก็จะได้รูปภาพขนาดที่เหมาะสมกับเว็บของเราแล้ว เย่! ต่อจากนี้ทุกท่านจะได้สบายใจในการอัพโหลดรูป ภาพไม่แตก ดูเป็นมืออาชีพ มีความน่าใช้ ส่วนใครที่มีปัญหาอยากจะสอบถามเพิ่มเติมสามารถคอมเม้นท์ได้ที่ใต้บทความนี้เลยนะครับ
การออกแบบเว็บไซต์ที่มีทั้งภาพและเนื้อหา เป็นการออกแบบเว็บที่นิยมในปัจจุบันซึ่งประกอบด้วยข้อความ รูปภาพ โดยมีการจัดองค์ประกอบต่างๆ เพื่อให้เว็บน่าสนใจ
ขนาดมาตรฐานออกแบบเว็บไซต์ ขนาดของหน้าเว็บ ควรมีขนาดเท่าไหร่? - YouTube
ฟอนต์ (Font) หรือรูปแบบตัวอักษร มีอยู่มากมาย และหลายประเภท หากลองเข้าไปดูแต่ละเว็บไซต์ เราจะเห็นความต่างอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเว็บต่างประเทศที่มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก บ้างก็มีการใช้มากกว่าหนึ่งฟอนต์ บ้างก็ใช้แค่ฟอนต์เดียว แต่หลายขนาด เป็นต้น ก่อนจะเข้าสู่เรื่องของขนาดฟอนต์นั้น เรามาทำความเข้าใจ ข้อควรรู้เกี่ยวกับฟอนต์เบื้องต้นกันก่อน ซึ่งจะแบ่งเป็น 4 ส่วนใหญ่ ๆ ดังนี้ หมายเหตุ แม้ความหมายของ ฟอนต์ (font) กับ ไทป์เฟส (Typeface) จะต่างกัน แต่ในการใช้งานทั่วไป มักจะเรียกรวม ๆ ว่าฟอนต์ เพื่อความเข้าใจ และไม่สร้างความสับสน ( อ่านข้อมูลเพิ่มเติม) 1. รูปแบบหรือประเภทของฟอนต์ (Font Categories) รูปแบบของฟอนต์ เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการเลือกใช้ฟอนต์ในเว็บไซต์ เนื่องจากฟอนต์นั้นเป็นสิ่งที่จะสื่อให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่ต้องการจะสะท้อนให้ผู้ใช้เข้ามาเห็นและรู้สึกถึงความเป็นแบรนด์นั้น ๆ เรื่องฟอนต์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เราจึงควรรู้จักประเภทของตัวฟอนต์ กันก่อน เพื่อที่จะเลือกใช้ฟอนต์ให้เหมาะสมกับแบรนด์ ซึ่งจะแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ 1. 1 Serif Serif หรือที่นิยมเรียกกันว่า ฟอนต์มีหัว / เชิง ซึ่งฟอนต์ลักษณะนี้จะเป็นฟอนต์ที่มีขีดเล็ก ๆ ที่ปลายแต่ละด้านของตัวอักษร มีรูปแบบที่ค่อนข้างทางการ ง่ายต่อการอ่าน ให้ความรู้สึกที่มีความเป็นทางการ เรียบหรู น่าเชื่อถือ และความคลาสสิก 1.
ความสำคัญของการกำหนดขนาดเว็บไซต์ในปัจจุบัน มี 2 ขนาด คือ ขนาดเว็บที่ รับออกแบบเว็บไซต์ 1. ขนาดเว็บไซต์แบบ 800 X 600 pixels เป็นขนาดที่สามารถใช้ได้กับหน้าจอทุกขนาดในปัจจุบันเป็นขนาดของการออกแบบเว็บไซต์ที่ใช้ในอดีต เนื่องจากอดีตขนาดของจอคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็ก 2. ขนาดเว็บไซต์แบบ 1024 X 768 pixels เป็นขนาดที่นิยมในปัจจุบัน เนื่องจากผู้ใช้นิยมใช้จอคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ขึ้นเนื่องมาจากราคาจอคอมพิวเตอร์ที่ถูกลง รูปแบบการออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์ในปัจจุบันจะมีการออกแบบที่แตกต่างกันไม่มากนัก ซึ่งการออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะมองดูองค์ประกอบขององค์กร หน่วยงาน หรือเนื้อหาเรื่องที่นำเสนอเป็นหลัก ซึ่งการออกแบบหน้าตของเว็บไซต์มีอยู่ 3 แบบ คือ 1. การออกแบบเว็บไซต์ที่เน้นการนำเสนอเนื้อหา เป็นการออกแบบเว็บไซต์ที่เน้นการนำเสนอเนื้อหามากกว่ารูปภาพ โดยโครงสร้างใช้รูปแบบตารางเป็นหลัก มีการออกแบบหน้าตารูปแบบง่าย เช่น มีเมนูสารบัญ และเนื้อหา 2. การออกแบบเว็บไซต์ที่เน้นภาพกราฟิก เป็นการออกแบบเว็บไซต์ที่เน้นภาพกราฟิกที่สวยงาม ซึ่งอาจจะใช้โปรแกรม Photoshop สำหรับการตกแต่งภาพ ข้อดี สวยงาม น่าสนใจ ข้อเสีย อาจจะใช้เวลาในการโหลดเว็บนาน 3.
นอกจากเรื่องของขนาดรูปภาพบนหน้าเว็บไซต์ที่เราได้กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีการแสดงผลรูปภาพอีกหนึ่งส่วนที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นคือ การแสดงผลรูปภาพหมวดหมู่สินค้า เจ้าของร้านเทพรู้กันหรือเปล่าคะ ว่ารูปภาพประจำหมวดหมู่สินค้า เราก็สามารถปรับขนาดให้เหมาะสมกับการแสดงผลบนหน้าเว็บไซต์ได้เหมือนกัน ซึ่งขนาดของรูปภาพหมวดหมู่สินค้าที่ทำให้การแสดงผลบนเว็บไซต์ดูสวยงาม นั่นก็คือ "ขนาด 3:2" นั่นเอง!
ขนาดของรูปแบนเนอร์ของเว้บไซต์ที่ความกว้าง 1200 พิกเซล หากร้านค้าต้องการให้รูปแบนเนอร์บนหน้าเว็บไซต์ แสดงผลเต็มความกว้างของหน้าจอ ก็สามารถเลือกใช้รูปขนาด 1920 พิกเซล หรือ 1600 พิกเซลเช่นเดียวกับเว็บไซต์รูปแบบ Full ได้ แต่หากต้องการให้ความกว้างของแบนเนอร์ มีขนาดเท่ากับรูปภาพส่วนเนื้อหา ก็สามารถเลือกใช้รูปภาพแบนเนอร์ขนาด 1200 พิกเซล เพื่อเปลี่ยนรูปแบบบนหน้าเว็บไซต์ได้เลยค่ะ 2.
2 Sans Serif Sans Serif หรือที่นิยมเรียกกันว่า ฟอนต์ไม่มีหัว / เชิง ฟอนต์ลักษณะนี้จะเป็นฟอนต์ที่ไม่มีขีดเล็กๆ ที่ปลายของตัวอักษร ซึ่งเป็นการตัดท่อนตัวอักษรให้มีความเรียบง่าย ไม่เป็นทางการ ดูทันสมัย และชัดเจน จึงนิยมใช้บนงานสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ตัวอย่างฟอนต์ที่คนนิยมใช้กันก็จะมี ตัวอย่างฟอนต์ใน Google Fonts 2. น้ำหนักของฟอนต์ (Typeface) ฟอนต์ที่เป็นรูปแบบตัวอักษรเดียวกัน แต่มีค่าน้ำหนักของฟอนต์ที่ไม่เท่ากัน จะทำให้ตัวอักษรมีความแตกต่างกัน ทั้งทางด้านรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ขนาด ความหนา ความกว้าง และความเอียง ซึ่งโดยส่วนใหญ่เราจะเห็นหลัก ๆ ด้วยกัน 5 น้ำหนัก ได้แก่ บางมาก (Thin) บาง (Light) ปกติ (Regular) หนา (Bold) และ หนามาก (Black) ซึ่งค่าน้ำหนักของฟอนต์บางชุดก็สามารถทำให้ฟอนต์ดูเปลี่ยนไปแบบคนละฟอนต์เลยละ เพราะฉะนั้นเลือกใช้ค่าน้ำหนักที่พอดีและเหมาะสมกับแต่ละส่วนงาน ฟอนต์ Sarabun มีน้ำหนักมากถึง 8 น้ำหนัก 3. ขนาดของฟอนต์ (Sizing) เข้าสู่เรื่องของขนาดฟอนต์กัน สำหรับเว็บไซต์ เราจะใช้หน่วย px (Pixel) ซึ่งเป็นหน่วยวัดบอกความสูงของฟอนต์ที่เราเห็นในหน้าจอ LCD ทุกรูปแบบ เช่น ฟอนต์ขนาด 12 px หมายถึง ฟอนต์นี้มีความสูง 12 พิกเซลจากฐาน เป็นต้น โดยขนาดฟอนต์แนะนำสำหรับเว็บ คือ "16 px" ซึ่งเป็นขนาดเริ่มต้นมาตรฐาน เหมาะทั้งบนหน้าจอแบบ Desktop Tablet และ Mobile โดยขนาดฟอนต์ที่ใช้ก็จะสร้างเป็น Design System ชุดเดียวกัน และนำไปเลือกใช้ขนาดให้เหมาะสมกับแต่ละส่วน แต่ควรอยู่ที่ 4-6 ขนาด แต่ทั้งนี้ก็ ขึ้นอยู่กับงาน และความเหมาะสม โดยจะแนะนำขนาดที่ใช้ มีดังนี้ 4.
กราบสวัสดีลูกค้า MakeWebEasy ทุกท่านด้วยนะครับ รอบนี้ก็กลับมาอีกครั้งกับ Tip ดีๆเจ๋งๆที่ใช้ในการทำเว็บไซต์ ซึ่งคราวนี้เราขอนำเสนอเรื่องใกล้ๆตัว อย่างเรื่อง "ขนาด Size ของรูปภาพที่ใช้ในการทำเว็บ MakeWebEasy " ซึ่งทาง MakeWebEasy เองได้รับคำถามมาอย่างล้นหลามว่า " สรุปมันต้องใช้รูปขนาดเท่าไหนกันแน่? " ทาง MakeWebEasy จึงขอมาคลายข้อสงสัยแก่ทุกท่าน เพื่อที่ทางตัวลูกค้าเอง จะได้ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องภาพแตกกันอีกต่อไป เอ้า!
จอการ์ดบางตัวรองรับปุ่มลัดในการปรับเปลี่ยนหน้าจอได้ด้วย คุณสามารถใช้ปุ่มลัดเหล่านี้ปรับเปลี่ยนโหมดต่างๆ สลับไปมาอย่างรวดเร็วได้ เหมือนว่าปุ่มลัดเหล่านี้จะใช้งานได้ถ้าคุณใช้อะแดปเตอร์การ์ดจอออนบอร์ดของ สำหรับผู้ที่ใช้การ์ดจอของ Nvidia หรือ AMD จะไม่สามารถใช้ปุ่มลัดได้ Ctrl + Alt + ↓ – กลับหัวหน้าจอ Ctrl + Alt + → – หมุนหน้าจอไปทางขวา 90° Ctrl + Alt + ← – หมุนหน้าจอไปทางซ้าย 90° Ctrl + Alt + ↑ – หมุนหน้าจอกลับมาเป็นเป็นรูปแบบมาตรฐาน 5 เข้าไปดูคอนโทรลพาเนล (control panel) ของการ์ดแสดงผล. สำหรับการ์ดจอ Nvidia, AMD, และ Intel มักจะติดตั้งโปรแกรมคอนโทรลพาเนลที่จะทำให้คุณปรับอะแดปเตอร์ในลักษณะพิเศษได้ ปกติแล้วจะสามารถเข้าถึงคอนโทรลพาเนลได้จากเมนู เมื่อคุณคลิกขวาบนหน้าจอ desktop แต่คุณอาจต้องไปหาในเมนู Start หรือใน Windows Control Panel แทน หาเมนูชื่อ"Rotate"หรือ"Orientation" ในคอนโทรลพาเนลของ Nvidia ให้หาเมนูที่ชื่อว่า"Rotate display"ในเมนูทางด้านซ้าย สำหรับ Catalyst Control Center ของ AMD คุณจะเห็นเมนูชื่อว่า"Rotation"ในส่วนของ Desktop Properties ส่วนของ Intel นั้น คุณจะเจอตัวเลือก"Rotation"ในเมนูชื่อ"Display Settings" 6 สร้างปุ่มลัดในการหมุน (ของ AMD).