ร่วมกับ แผนงานรณรงค์เพื่อเด็กไทยไม่กินหวาน จัดประชุมโครงการ " รวมพลคนอ่อนหวาน บูรณาการและสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อเด็กไทยสุขภาพดี " โดยมีการให้ความรู้ในการควบคุม การส่งเสริมการขายในสถานศึกษา ( food marketing in school) เพื่อเสนอแนะเชิงนโยบาย ในเรื่องการจำหน่ายขนมและเครื่องดื่มในโรงเรียนเพื่อสุขภาพ มีการประเมินวิธีการที่เป็นไปได้และเหมาะสมกับโรงเรียน เพื่อนำข้อเสนอแนะเข้าสู่การทำแผนฯ ของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและติดตาม มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 2 หลังพบบางโรงเรียนยังมีการเปิดพื้นที่ให้มีการนำขนม น้ำอัดลมเข้าไปขายในโรงเรียน ทพญ. จันทนา อึ้งชูศักดิ์ ผู้จัดการแผนงานรณรงค์เพื่อเด็กไทยไม่กินหวาน สสส. กล่าวว่า ผลการสำรวจเรื่องการตลาดอาหารในโรงเรียน พ. ศ. 2552 พบว่า ' เด็ก ' คือ เป้าหมายใหม่ทางการตลาดสินค้าเฉพาะกลุ่ม และ ' โรงเรียน ' เป็นสถาบันทางสังคมที่มีอิทธิพลต่อชีวิตและสังคมของเด็ก ที่จะถ่ายทอดอุดมการณ์ มีการกล่อมเกลาทางสังคม เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเด็กที่อยู่ในโรงเรียน ด้วยการสร้างแรงดึงดูดในการขายสินค้า ซึ่งนำไปสู่การการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขาย ด้วยการอาศัยช่องว่างเมื่ออาหารมีไม่เพียงพอ เนื่องจากขาดงบประมาณสนับสนุนจากรัฐ จึงทำให้เกิดรูปแบบทางการตลาดในโรงเรียนขึ้น 4 ด้าน คือ 1.
คุณเคยต้องการหารายได้จำนวนมากในโรงเรียนหรือเปล่า? คุณเป็นนักเรียนวัยรุ่นหรือนักเรียนที่ไม่มีรายได้หรือไม่? คุณสามารถเป็นนักธุรกิจตัวน้อยในโรงเรียน เพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อหารายได้ในโรงเรียน ขั้นตอน 1 ขายของที่เพื่อนร่วมห้องอาจจะต้องการ เช่น ลูกอม ขนม ดินสอ เป็นต้น. 2 วางแผนการแบ่งกำไรและขออนุญาตคุณครูใหญ่หรือคุณครูประจำชั้นเพื่อขายของ. เสนอที่จะบริจาค 10% ของกำไรให้โรงเรียน วิธีนี้คุณจะไม่ถูกทำโทษและหารายได้ได้ด้วย 3 ซื้อของที่เป็นที่นิยมที่นักเรียนคนอื่นชอบ. บางสิ่งที่เด็กคนอื่นชอบ เช่น หมากฝรั่ง ลูกอม เครื่องดื่มและอื่นๆ ขออนุญาตคุณครูใหญ่เพื่อขายของก่อนเสมอ 4 เริ่มแพ็คของ. ใส่ของในเป้ กระเป๋าหรือตู้ล็อคเกอร์ หมากฝรั่งเป็นสิ่งที่ทุกคนในโรงเรียนต้องการซื้อแต่ไม่สามารถหาซื้อได้ สิ่งที่คุณต้องทำคือไปที่ร้านและซื้อหมากฝรั่งแพ็คใหญ่ 5 ตั้งราคาให้สูงกว่าที่คุณจ่ายไป ถ้าทำได้. คุณอาจจะไม่สามารถทำได้แต่คุณกำลังขายความสะดวกเช่นเดียวกับขายของ การคิดกำไรคือสิ่งที่ยอมรับได้ ถ้าหากราคาสูงขึ้น ผู้คนอาจจะเลือกซื้อตามร้านแทนที่จะซื้อกับคุณ สมมุติว่ามันราคา 75 บาท คุณต้องเพิ่มกำไร 10-20% หรือถ้าหากโรงเรียนของคุณมีตู้ขายของแบบหยอดเหรียญ คุณสามารถซื้อเครื่องดื่มกระป๋องและนำไปขายโดยขอกำไร 10 บาทจากการบริการเพราะคุณเอาขยะไปทิ้งให้พวกเขาด้วย 6 ขายเร็ว.
น้ำแข็งไส น้ำแข็งไสหรือหวานเย็นก็เป็นอีกหนึ่งเมนูเด็ดที่เด็กๆ ชื่นชอบ ลูกเล่นของเมนี้อยู่ที่เครื่องต่างๆ ที่สามารถเลือกสรรได้อย่างหลากหลาย เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ในทุกๆ วัน ถือเป็นความเพลิดเพลินหนึ่งอย่างของเด็กๆ ที่จะให้ความสนใจกับเมนูนี้ ราคาแนะนำใส่ถ้วยโฟม ถ้วยละ 15 บาท รสชาติยอดนิยมได้แก่ น้ำเขียวและน้ำแดง 5. ลูกชิ้นทอด มาที่ของร้อนกันบ้างกับลูกชิ้นทอด ของกินง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ โดยเฉพาะเด็กน้อยวัยเรียนทั้งหลาย ลูกเล่นของอาหารเมนูนี้อยู่ที่ความหลากหลาย เพราะถึงแม้จะชื่อเมนูลูกชิ้นทอด แต่ในร้านก็ควรจะมีให้เด็กๆ เลือกมากกว่าลูกชิ้น เช่น ไส้กรอก ปูอัด แฮม โบโลน่า และอื่นๆ เป็นต้น เชื่อว่าเมนูนี้จะทำเงินอย่างแน่นอน หากนำไปขายที่หน้าโรงเรียนและไม่มีคู่แข่งมาขายข้างๆ ให้รำคาญใจ ราคาขายที่แนะนำ ไม้ละ 5- 10 บาท 6.
ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง ซบหน้าลงกับท่อนแขน เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง ไม่เป็นไรใช่ไหม?
ในตอนแรกใช้เงินเพียงไม่กี่เหรียญเพื่อซื้อขนมเพื่อดูว่าคนชอบอะไร สร้างความต้องการขนมที่โรงเรียน หลังจากที่คุณพบว่าทุกคนต้องการขนมให้บอกให้พวกเขานำเงินมาในวันรุ่งขึ้นและซื้อขนมหนึ่งกล่อง ฉันขายในโรงเรียน แต่สินค้าชิ้นหนึ่งของฉันหมดอายุและตอนนี้ไม่มีใครไว้ใจฉัน ฉันควรทำอย่างไรดี? สร้างชื่อเสียงของคุณอีกครั้งด้วยการขายในราคาที่ถูกลงและเพิ่มราคาให้เป็นปกติเมื่อระดับธุรกิจของคุณกลับคืนมา เคล็ดลับ นำเงินสกุลเล็ก ๆ ติดตัวไปด้วยเพื่อให้ลูกค้าของคุณเปลี่ยนแปลง แทนที่จะเป็นกล่องรองเท้า ใช้กล่องอาหารกลางวัน!