การปั้นแบบลอยตัว (Round - relief) การปั้นแบบลอยตัว เป็นการปั้นที่สามารถมองเห็นได้ทุกด้านโดยรอบ ปกติจะมีฐานอยู่เพื่อให้ตั้งกับพื้นได้ พบเห็นมากในการสร้างอนุเสาวรีย์และรูปเคารพต่าง ๆ ลักษณะการปั้นมีทั้งขนาดเท่าของจริง และใหญ่กว่าของจริง แต่ที่สำคัญจะต้องยึดถือความเหมือนต้นแบบให้มากที่สุด เช่น พระบรมรูปทรงม้า รูปปั้นศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นต้น แหล่งอ้างอิง:
การปั้นรูปลอยตัวเป็นการปั้นที่มองเห็นได้รอบด้าน การปั้นด้วยวิธีการนี้ผู้ปั้นจะต้องพิจารณาและเอาใจใส่รูปทรงเป็นพิเศษทั้งด้านหน้าด้านหลังและด้านข้าง ให้ทุกด้านมีคุณค่าทางความงาม การปั้นรูปตามแบบของจริง แหล่งอ้างอิง:
emp: บทความที่ 3: ประติมากรรม
กระบวนการสร้างสรรค์ทางบวก เป็นกรรมวิธีการสร้างสรรค์งานประติมากรรมโดยการเพิ่มวัสดุลงในบริเวณหรือแกนที่สร้างขึ้นให้เกิดเป็นรูปทรงสามมิติ มีความงามตามที่ประติมากรต้องการ ซึ่งได้แก่ผลงานการปั้นและการหล่อ จินตนาการจากรูปทรงงมนุษย์ ผลงานของวาทวิจิตร ภู่ทอง เป็นผลงานประติมากรรมที่ใช้กระบวนการสร้างสรรค์ทางบวก คิด ผลงานของชลูด นิ่มเสมอ เป็นผลงานประติมากรรมที่ใช้กระบวนการสร้างสรรค์ทางบวก ๒. กระบวนการสร้างสรรค์ทางลบ เป็นกรรมวิธีการสร้างสรรค์งานประติมากรรม โดยการสกัดเอาส่วนที่ไม่ต้องการออกคงไว้เฉพาะส่วนที่ต้องการ ให้เหลือเป็นรูปทรงสามมิติ ดูงามตา ซึ่งได้แก่ผลงานการแกะสลักต่างๆ Beacchanal ผลงานของโจวันนี ลอร์เรนโซ เบร์นีนี (Giovanni Lorrenzo Bernin) เป็นผลงานประติมากรรมที่ใช้กระบวนการสร้างสรรค์ทางลบ Slave Young ผลงานของมีเกลันเจโล บูโอนาร์โรตี (Michelangelo Buonarroti) เป็นผลงานประติมากรรมที่ใช้กระบวนการสร้างสรรค์ทางลบ ๓. กระบวนการสร้างสรรค์ทางผสมผสาน เป็นกรรมวิธีการสร้างสรรค์ที่เกิดจากการผสมผสานกันระหว่างกระบวนการทางบวกและกระบวนการทางลบ เพื่อให้เกิดเป็นรูปทรงตามต้องการ โอบอุ้ม ผลงานของลูกปลิว จันทร์พุดซา เป็นผลงานประติมากรรมที่ใช้กระบวนการวร้างสรรค์ทางผสมผสาน แม่กับลูก ผลงานของสุวิช สถิตวิทยานันท์ เป็นผลงานประติมากรรมที่ใช้กระบวนการสร้างสรรค์ทางผสมผสาน
เพื่อเป็นการจำลองคนที่เราเคารพนับถือให้มีรูปแบบหลงเหลือเพื่อเตือนให้ระลึกถึง หรือเพื่อเคารพบูชา 2. เพื่อเป็นการบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมให้เป็นรูปทรงปรากฎเป็นหลักฐานทางด้านประวัติศาสตร์ 3. เพื่อเป็นการปลุกเร้าให้ผู้พบเห็นตระหนักในความสำคัญของการอยู่ร่วมกัน ความสามัคคี และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม 4. เพื่อเป็นการแสดงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของสังคมนั้นๆ ประติมากรรมนั้น หากผู้สร้างต้องการจะเพิ่มจำนวนปริมาณตามความต้องการของสังคม เขาก็มักจะใช้วิธีหล่อโดยสร้างรูปที่ต้องการนั้นให้เป็นแม่พิมพ์ หรือรูปแม่แบบเสียก่อนแล้วจึงทำพิมพ์จากรูปแม่แบบนั้นเพื่อหล่อต่อไป การหล่อมีวิธีทำพิมพ์ 2 วิธี คือ 1. การทำพิมพ์ทุบ พิมพ์ทุบเป็นแม่พิมพ์ชั่วคราว เมื่อสร้างขึ้นมาแล้ว สามารถใช้หล่อได้ เพียงรูปเดียวเท่านั้น เพราะเมื่อจะนำแม่พิมพ์ออก หลังจากทำการหล่อรูปแล้วนั้น ต้องทำการสกัดแม่พิมพ์ให้แตกออก เหลือเฉพาะส่วนที่เป็นรูปหล่อเท่านั้น แม่พิมพ์ทุบนี้ใช้สำหรับการหล่องานปั้นที่ทำด้วยวัสดุอ่อน เช่น ดินเหนียว ดินน้ำมัน ขี้ผึ้ง เท่านั้น 2.
งานประติมากรรมซึ่งมีรูปทรงสามมิติ นิยมสร้างกัน ๓ ลักษณะใหญ่ๆ ได้แก่ ๑. รูปแบบนูนต่ำ (bas relief) เป็นประติมากรรมที่มีรูปทรงนูนขึ้นมาจากพื้นหลังเพียงเล็กน้อย สามารถมองเห็นความงามของรูปได้จากด้านหน้าด้านเดียว แผ่นหินของพระเจ้านาร์เมอร์ (Palette of Narmer) ประติมากรรมบนแผ่นหิน ศิลปะอียิปต์ แสดงภาพนูนต่ำฟาโรห์นาร์เมอร์หรือฟาโรห์เมนิส กำลังลงอาญาศัตรู เหรียญวัตถุมงคล ประติมากรรมโลหะรูปแบบนูนต่ำ ๒. รูปแบบนูนสูง (high relief) เป็นประติมากรรมที่มีลักษณะคล้ายกับแบบนูนต่ำ แต่จะมีความต่างกันที่ส่วนของรูปจะนูนสูงขึ้นมาจากพื้นหลังมากกว่า ซึ่งสามารถรับรู้ความงามของรูปทรงได้ทั้ง ๓ ด้าน คือ ความงามทางด้านหน้า ความทางด้านข้างของด้านขวา และความทางด้านข้างของด้านขวา Cristo morto ประติมากรรมสลักไม้รูปแบบนูนสูง ผลงานของโดนาเตลโล (Donatello) ประติมากรรมนูนสูง ตกแต่งสะพานมหาดไทย (สะพานร้องไห้) กรุงเทพมหานคร ๓.