22 มี. ค. 2564 เวลา 19:10 น. 16.
ถ้าพูดถึงอาชีพในสายงานด้านความมั่นคงปลอดภัย หลายคนคงคิดถึง Security Consultant, Pen Tester หรือ Auditor แต่จริงๆแล้ว งานสายนี้มีความหลากหลายมากกว่านั้น วันนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับ 4 สายงานที่น่าสนใจและกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดกันครับ 1. ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัล (Forensics Expert) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลเป็นอาชีพที่องค์กรขนาดใหญ่และหน่วยงานกำกับดูแลต้องการเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทั่วไป ผู้เชี่ยวชาญด้านการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลนี้มักถูกเรียกให้ไปวิเคราะห์และตรวจสอบว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังของการโจมตีไซเบอร์ พวกเขาเหล่านี้นอกจากจะต้องมีทักษะทางด้านคอมพิวเตอร์ระดับแนวหน้าไม่แพ้แฮกเกอร์แล้ว ยังต้องเข้าใจเรื่องกฎหมายเป็นอย่างดีอีกด้วย 2. ผู้เชี่ยวชาญ/นักวิเคราะห์วิทยาการเข้ารหัสลับ (Cryptographer/Cryptanalyst) ผู้เชี่ยวชาญวิทยาการเข้ารหัสลับมีหน้าที่พัฒนาอัลกอริทึมในการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญจากแฮกเกอร์ ไม่ว่าจะเป็นการแอบดู คัดลอก แก้ไข หรือลบข้อมูลทิ้ง รวมไปถึงทดสอบระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยเพื่อค้นหาจุดอ่อน ผู้ที่จะทำอาชีพนี้ได้จะเป็นต้องมีทักษะเชิงเทคนิคระดับสูงและความคิดสร้างสรรค์ รวมไปถึงต้องมีความน่าเชื่อถือในการจัดการกับข้อมูลสำคัญ 3.
(ISC)2 CISSP ด้วยอัตราค่าจ้าง 107, 000 ดอลลาร์ฯ ต่อปีเป็นใบเซอร์สำหรับผู้ที่ต้องการทำหรือจัดการโครงการด้านความปลอดภัยไอทีทั้งหลาย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการไต่ขึ้นไปยังตำแหน่ง CISO ซึ่งก่อนหน้าจะสอบนั้นคุณต้องมีประสบการณ์ในงานที่เกี่ยวข้องกับ CISSP ด้านต่างๆ อย่างน้อยสองด้านขึ้น เป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี อันได้แก่ การจัดการความเสี่ยง, ความปลอดภัยในการพัฒนาซอฟต์แวร์, และการดำเนินงานด้านความปลอดภัย เป็นต้น 3. ISACA CISA ด้วยอัตราค่าจ้าง 114, 000 ดอลลาร์ฯ ต่อปีใบเซอร์เก่าแก่สมัยเริ่มแรกตั้งแต่ปี 2521 ที่ปัจจุบันมีผู้ถือใบเซอร์นี้อยู่นับแสน ใบเซอร์นี้แสดงถึงความรู้ด้านการออดิทความปลอดภัยไอที รวมทั้งความสามารถในการประเมินช่องโหว่ด้านความปลอดภัย, การทำรายงานด้านความสอดคล้องกับมาตรฐานและกฎหมาย, รวมทั้งการควบคุมความปลอดภัยภายในองค์กร ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ต้องมีสำหรับผู้ที่ต้องการดำรงตำแหน่งผู้ตรวจสอบความปลอดภัยทางไอทีโดยเฉพาะ 4. (ISC)2 CCSP ด้วยอัตราค่าจ้าง 117, 000 ดอลลาร์ฯ ต่อปีใบเซอร์ด้านความปลอดภัยบนคลาวด์นี้ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจที่หันมาใช้คลาวด์กันอย่างล้นหลามได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเนื้อหาในการสอบจึงเต็มไปด้วยความรู้เกี่ยวกับคลาวด์ในระดับมืออาชีพทั้งด้านแอพพลิเคชั่น, ข้อมูล, และโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งมาตรฐานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 5.
AI and Data อาทิเช่น AI Specialists, Data Scientists, Data Engineer, Big Data Developer, Data Analyst ระดับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 40, 000 – 195, 000 บาทต่อเดือน 2. Engineering and Cloud เช่น Reliability Engineer, DevOps, Cloud Computing, Cloud Architect, Cloud Solutions Consultant, Python Developer ระดับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 35, 000 – 155, 000 บาทต่อเดือน 3. Software & Application Developers เช่น Software Engineer, Application Engineer / Developer, Frontend / Backend / Full Stack Engineer / Developer, Mobile Application Developer, Programmer ระดับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 33, 500 – 110, 000 บาทต่อเดือน 4. Product Development เช่น Product Owner, Quality Assurance Tester / Engineer, Agile Coach, Software Quality Assurance Engineer, Product Analyst, Scrum Master ระดับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 42, 000 – 145, 000 บาทต่อเดือน 5. Sales, Marketing and Content เช่น Social Media Assistant / Content Production, Growth Hacker, Customer Success, Sales Development Representative, Specialist Digital Marketing Specialist ระดับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 28, 000 – 108, 000 บาทต่อเดือน ส่วนทางด้าน IT Staffing มีดังนี้ 1.
ประสบการณ์ เมื่อคุณเลือกประเภทงานที่เหมาะกับตัวเองแล้ว ประสบการณ์ในการทำงานด้านนั้นๆ จะส่งผลต่อเงินเดือนของคุณเป็นอย่างมาก เช่น Cybersecurity Analyst มีเงินเดือนเริ่มต้นน้อยกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 260, 000 บาทต่อปี แต่เงินเดือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคุณมีประสบการณ์มากขึ้น 3. ประเทศและเมืองที่ทำงาน งานด้าน Cybersecurity ที่ให้เงินดีที่สุดอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่ในแต่ละเมืองก็มีฐานเงินเดือนที่แตกต่างกัน เช่น Seattle ที่ขาดแคลนบุคลกรด้านนี้มีโอกาสจะได้เงินเดือนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศถึง 19% ในขณะที่ถ้าเป็น New York หรือ Washington, DC. จะได้เงินเดือนสูงกว่าค่าเฉลี่ยราว 15% 4. ประกาศนียบัตร/ใบรับรอง ประกาศนียบัตรช่วยเพิ่มเงินเดือนให้คุณได้ในระดับหนึ่ง เช่น ผู้มีใบรับรอง CISM สามารถมีเงินเดือนเพิ่มขึ้นจาก InfoSec Analyst ทั่วไปถึง 820, 000 บาทต่อปี ในขณะที่ใบรับรอง CISSP ช่วยเพิ่มเงินเดือนให้ราว 500, 000 บาทต่อปี สำหรับบอร์ดผู้บริหาร การมีประกาศนียบัตรจะช่วยเพิ่มเงินเดือนให้สูงถึง 5 – 25% ต่อปี 5. ประวัติการทำงาน ปริมาณการทำงานด้าน Cybersecurity ที่คุณเคยทำช่วยให้คุณหางานใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น ยิ่งคุณแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถตรวจจับช่องโหว่บนระบบใช้งานจริงได้มากเท่าไหร่ ยิ่งช่วยให้คุณได้งานง่ายมากขึ้นและต่อรองเงินเดือนได้มากเท่านั้น ซึ่งตรงนี้เองอาจเป็นข้อเสียเปรียบสำหรับเด็กจบใหม่ในการหางานทำและได้เงินเดือนสูงๆ สุดท้าย ผมขอแนะนำเว็บไซต์ สำหรับแนะนำสายงานต่างๆ ด้าน Cybersecurity พร้อมระบุเงินเดือนโดยเฉลี่ย ทักษะที่พึงมี ประกาศนียบัตรที่เกี่ยวข้อง และเส้นทางในการเติบโตของสายงานนั้นๆ ให้ไปวางแผนการทำงานกันครับ ที่มา:
มาถึงอันดับ 1 กันเสียที แล้วถ้าคุณคิดว่าเหตุการณ์ในอันดับที่ 2 นั้น มีมูลค่าความเสียหายมากมายมหาศาลแล้ว ก็ขอแนะนำให้คุณได้รู้จักกับเหตุการณ์นี้ เพราะนี่คือเหตุการณ์ที่มีสถิติการเรียกร้องค่าไถ่สูงที่สุดและไม่ใช่แค่เฉพาะในปี 2021 เท่านั้น แต่ยังสูงที่สุดเท่าที่มีการเปิดเผยกันในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว!
5 สายงานด้าน Cybersecurity รายได้งาม!