ว่านงาช้าง ใครไม่ชอบต้นไม้ที่ใบเยอะ ขี้เกียจเก็บกวาดใบ แนะนำว่านงาช้างเลย เหมือนงาช้างสมชื่อจริง ๆ ที่สำคัญคือนางทนแดดทนแล้งได้ดี อยู่มุมไหนของบ้านก็สวย แถมดูแลง่าย แสง: แดดรำไร แต่สามารถโดนได้ตลอดทั้งวัน น้ำ: 3 วันครั้ง อากาศ: ไม่ชอบความชื้น 6. มอนสเตอร่า มอนสเตอร่าถือว่าเป็นต้นไม้ปลูกในบ้านที่ฮิตสุดเลยก็ว่าได้ ไปบ้านไหนก็ต้องเห็น ซึ่งใบที่เป็นแฉกทำให้มันโดดเด่น ดูมีอะไร วางตรงไหนของบ้านก็สวยไปหมด ยิ่งเป็นห้องแบบมินิมอลแล้วยิ่งดีใหญ่ เพราะช่วยเพิ่มกิมมิกให้ห้องดูไม่เรียบจนเกินไป แสง: แดดรำไร น้ำ: วันละ 1-2 ครั้ง เอาให้ชุ่มฉ่ำ อากาศ: ชอบความชื้นมาก 7. ฟิโลเดนดรอน แบล็กคาดินัล ฟิโลเดนดรอน แบล็กคาดินัล หรือจะเรียกให้สั้นกว่านี้ว่าฟิโล แบล็กคาดินัล ก็ได้ จะบอกว่าเป็นต้นไม้ปลูกในบ้านที่สวยงามมาก ด้วยใบที่ใหญ่กว้าง หนา และมันวาว ทำให้ต้นไม้ดูสดใสตลอดเวลา แถมสีของใบที่เขียวเข้มจนถึงดำยังทำให้ดูแปลกตาไปอีกแบบ มีแค่ต้นนี้ต้นเดียวในห้องก็เอาอยู่ แสง: แดดรำไร น้ำ: 3-4 วันครั้ง อากาศ: ชอบความชื้น แต่ดินต้องระบายน้ำดี 8. ยางอินเดีย ยางอินเดียเป็นต้นไม้ที่หลายคนแนะนำให้ปลูกในบ้าน เพราะช่วยฟอกอากาศได้อย่างดีเยี่ยม แถมลักษณะของใบที่กว้าง ซึ่งดูไม่รกมาก ทำให้ยางอินเดียเหมาะที่จะนำมาตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลและโมเดิร์นมาก ๆ ใครต้องการหาต้นไม้ปลูกในบ้านห้ามพลาดเชียวล่ะ แสง: แดดพอดี ๆ หรือ 4-5 วันโดนแดดครั้งนึงก็ได้ ถ้าอยากให้ใบเขียวเข้ม ๆ หน่อย น้ำ: วันละ 1-2 ครั้ง ชุ่มพอเหมาะ อากาศ: ชอบความชื้นปานกลาง 9.
เนื้อใบหนาและแข็งมาก ผิวใบเรียบ สีเขียวสด มีลายประดับคล้ายคลื่นน้ำทั่วทั้งใบ เวลามีใบดกจะชูใบตั้งขึ้นดูเหมือนครีบปลาวาฬขนาดใหญ่สวยงามมาก จึงถูกตั้งชื่อเป็นภาษาไทยว่า "ครีบปลาวาฬ" ดอก ออกเป็นช่อกระจะบริเวณโคนต้น ช่อดอกชูตั้งขึ้นสูงได้ประมาณ 30 ซม. ในแต่ละช่อจะประกอบไปด้วยดอกย่อยสีขาวอมเขียวจำนวนมาก วิธีการปลูก ครีบปลาวาฬ เป็น พืช ที่สามารถปลูกได้ทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง การปลูกลงดินต้องมีการพรวนดิน กำจัดวัชพืช และคลุกเคล้า ปุ๋ยคอก ในดินเพื่อเพิ่มสารอาหาร แต่ส่วนใหญ่จะนิยมปลูกในกระถางมากกว่า วัสดุที่ใช้ปลูกในกระถางมีดิน ทราย แกลบดำหรือ ขุยมะพร้าว โดยคลุกเคล้าให้เข้ากันในอัตราส่วน 1:0. 5:2 หากปลูกด้วยใบ ควรเลือกตัดใบให้ชิดโคนจากต้นแม่ เฉือนโคนใบให้เฉียงประมาณ 45 องศา นำไปปักให้ลึกลงไปในดินประมาณ 5-10 ซม. ส่วนการปลูกจากเหง้า ควรเลือกเหง้าจากต้นแม่ที่มีใบติดมาด้วยประมาณ 1-2 ใบ ตัดส่วนปลายใบเป็นรูปปากฉลามให้เหลือความยาวของใบประมาณ 20 ซม. แล้วจึงนำไปปลูก วิธีการดูแล ปลูกได้ในดินทั่วไป เป็นไม้ชอบแดดจัด ทนแล้งได้ดีมาก ไม่ชอบน้ำท่วมขังอย่างเด็ดขาด นิยมปลูกลงกระถางขนาดใหญ่ ตั้งประดับในที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน หลังจากการปลูก ให้รดน้ำพอชุ่ม และในวันต่อๆ ไปให้วันละ 1 ครั้ง แล้วค่อยลดการให้น้ำเหลือเพียงสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เมื่อมีการแตกใบใหม่ได้ยาวประมาณ 5-10 ซม.