เหมือนยุคอินดี้ไรงี้เหรอ? เฮ้ย ผมโอเคนะ ใครชอบเพลงอะไรของเราในยุคไหนบ้าง เราโอเคหมด ถามว่าทุกวันนี้เราเปลี่ยนไปจากตอนแรกไหม เราก็บอกว่าเราเปลี่ยน คนเรามันเปลี่ยนเรื่อย ๆ คนในแต่ละช่วงอายุมันคิดไม่เหมือนกัน มีประสบการณ์ที่ต่างกันอยู่แล้ว ตอนผมอายุ 22 กับวันที่เราอายุ 33 มันคิดคนละแบบกันไปแล้ว ถามว่าชอบเพลงเก่า ๆ ของวงไหม แน่นอน มันก็เป็นเพลงที่ดี เราทำมันขึ้นมาเอง เราภูมิใจกับมันทุกเพลง อยากพัฒนาอะไรในงานเพลง เรื่องไอเดียครับ อย่างที่ผมได้บอกไป นอกจากทักษะที่คุณต้องฝึกฝนมันเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว สไตล์ก็ต้องชัด ความแตกต่างของ The Mousses คืออะไร? ถ้ามันเหมือนกันหมด ลูกค้าก็ไม่รู้จะเลือกซื้อเราไปทำไม ผมคิดแบบนี้มาตลอดเลยนะ ผมขอเล่าแบบฮา ๆ เลยนะ ตอนผมรวมวงครั้งแรก ผมคิดเลยว่าใครไม่ใส่ขาเดฟกูไม่เอา จริง ๆ! ผมมองวงเป็นสินค้าชิ้นนึง ใครที่จะมาซื้อของ ๆ เรา เขาก็ต้องดู ต้องเห็น ถ้าใครไม่เข้ากับวงผมก็ไม่เอา ผมชอบฟังทั้งเสียง ชอบดูทั้งภาพ ผมชอบแพ็กเกจ ผมดูภาพรวม เหมือนเวลาผมชอบผู้หญิงสักคน ผมก็จะดูภาพรวม ๆ ว่าเขาดูโอเคไหม ก็เหมือนดนตรีแหละครับ (หัวเราะ) เคยบังคับเรื่องการแต่งตัวกับคนในวงไหม?
สไตล์ผู้ดีอังกฤษอะไรงี้ ซึ่งการแต่งตัวของพวกเขากลายเป็นไอดอลของเราในแง่เสื้อผ้าหน้าผม แล้วมันก็ยาวมาจนทุกวันนี้เลย เพราะทุกวันนี้เราก็ยังแต่งอย่างนั้นอยู่ ซึ่งการผสมสีมันก็ไม่มีผิดมีถูกนะ มันอยู่ที่ความชอบของคุณเท่านั้นเอง เรื่องอื่น ๆ ท่องเที่ยวหรือกีฬาอะไรแบบนี้ชอบไหม? ชอบครับ ชอบเตะบอลมาก ช่วงนี้ยุ่งมาก ไม่ได้เตะเลย ถ้าให้เลือกระหว่างกีฬากับเที่ยว จะเลือกอะไร เอากีฬาละกัน มันให้ความสุขกับผมนะ เวลาไปเจอเพื่อน ได้เตะบอลด้วยกัน มันผ่อนคลาย จะให้ชีวิตมานั่งทำงานตลอด มันเป็นไปไม่ได้ พ่อผมสอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือสุขภาพ ต่อให้มึงทำงานรวยเป็นร้อยล้าน แล้วนอนป่วยอยู่ที่บ้านก็ไม่มีประโยชน์ เหมือนทำงานหาเงินมาให้โรงพยาบาลหมด ผมถูกปลูกฝังแบบนี้มาตลอดตั้งแต่เด็ก พ่อผมเป็นคนรักสุขภาพมาก ตื่นมาวิ่งทุกเช้าเลย คือสำหรับผม พ่อผมยังดูไม่แก่เลยถ้าเทียบกับคนอายุใกล้เคียงกัน กล้ามยังเป็นมัด ใหญ่กว่าผมอีก! เขาไม่ได้พูดมากหรอก แต่ทำให้ผมเห็นมากกว่า อายุตั้ง 60 แล้ว แต่หุ่นยังเป๊ะอยู่เลย แล้วเป็นคนชอบเดินทางกับเขาไหม ชอบครับ แต่การทัวร์คอนเสิร์ตสำหรับผมก็ถือว่าเป็นการเดินทางอยู่ตลอด มีรถยนต์ในฝันไหม?
เริ่มจากสีสันอัลบั้ม " Happy Alone "?
เมื่อผมหมดแรงเนี่ย ผมจะมีโหมดพิเศษของผมให้ชีวิตได้ขับเคลื่อนต่อไป ผมตั้งชื่อมันว่า Power Booster แล้วกัน ซึ่งมันจะเกิดจากที่ผมได้ทำอะไรสนุก ๆ อย่างเล่นคอนเสิร์ต เจอแฟนเพลง นั่งทำเพลงใหม่ เตะบอลกับเพื่อน ออกไปชอปปิง อะไรพวกนี้ มันเยี่ยมมาก ๆ เลยครับ อยากบอกอะไรคนที่กำลังท้อ จากประสบการณ์ส่วนตัว เวลาผมท้อ ผมจะนึกถึงคนข้างหลังผมเสมอ ถ้าพ่อแม่เรายังอยู่ ยังมีภาระอะไรบ้าง สิ่งเหล่านี้มันเป็นแรงผลักดันของผมในการทำงานเสมอ ผมคิดเสมอว่าเราต้องเป็นลูกที่ดีของท่าน เพราะท่านเองก็สอนเสมอว่าต้องเป็นคนดี สำหรับผมคือสิ่งนี้ครับ PHOTOGRAPHER: Krittapas Suttikittibuth