ทำซ้ำขั้นตอนนี้ทุกสองสามวันจนกว่าขนทั้งหมดจะถูกถอนออก การดูแลหลังการรักษาหินภูเขาไฟ คำแนะนำเหล่านี้ควรแนะนำคุณเกี่ยวกับการใช้หินภูเขาไฟอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการกำจัดขนหรือขัดผิว หลังจากที่คุณใช้หินภูเขาไฟ ให้ชุ่มชื้นผิวของคุณและทำความสะอาดหินเสมอ จำไว้ว่าผลลัพธ์ของคุณอาจไม่สะท้อนถึงผลลัพธ์ของคนอื่น หากคุณเริ่มมีอาการระคายเคืองหรือเจ็บปวด ให้หยุดใช้หินก้อนนี้ทันที ผู้ที่มีผิวบอบบางอาจไม่สามารถใช้หินภูเขาไฟได้ หากคุณทำลายผิวในระหว่างขั้นตอนนี้ ให้ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อและหยุดใช้ ปรึกษาทางเลือกอื่นๆ กับแพทย์หรือแพทย์ผิวหนัง
© สนับสนุนโดย คมชัดลึก การรักษา "ส้นเท้าแตก" นอกจากจะช่วยเรื่องความสวยของเท้าแล้ว ยังทำให้เราลดความกังวลและความรำคาญลงไปได้ ก่อนที่จะปล่อยให้ส้นเท้าแตกไปมากกว่านี้ มีวิธีแนะนำดีๆ และ ง่ายๆ มาให้ลองทำกัน โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ในบ้านของเราเอง เพื่อจะได้รักษา "ส้นเท้าแตก" เราให้สวยและนุ่มยิ่งขึ้น 1. "เปลือกกล้วยหอม" นำเปลือกกล้วยหอมมาทาๆ ถูๆ บริเวณส้นเท้าที่แห้งอยู่ ถูไปมาแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที และ ล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดเท้าให้แห้ง แล้วตามด้วยครีมบำรุงส้นเท้า และ สวมถุงเท้าไว้สักพัก เพื่อให้ส้นเท้าไม่เสียความชุ่มชื้น ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ทำต่อเนื่องประมาณ 1 เดือนก็จะเห็นผลที่ดีขึ้น 2. "น้ำผึ้ง" นำน้ำผึ้งผสมลงไปในน้ำอุ่น แช่เท้าลงในอ่างและนวดเบาๆ เป็นเวลา 20 นาที จากนั้นค่อยๆ เอาหินมาขัดๆ ถูๆ เพื่อขจัดผิวที่ตายแล้วและอย่าลืมทาครีมบำรุงเท้าด้วย วิธีนี้สามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอก่อนเข้านอน 3. "เกลือบริสุทธิ์" ใช้เกลือบริสุทธิ์ครึ่งถ้วยเทลงในอ่างน้ำอุ่นคนให้เข้ากัน แช่เท้าไว้ประมาณ 15 นาที เมื่อครบเวลาแล้วก็ให้ใช้หินสำหรับขัดเท้า นำมาขัดถูเบาๆ บริเวณรอยแตก ซึ่งการขัดด้วยหินจะช่วยขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไปและทำให้ผิวนุ่มนวลได้ 4.
วิธีรักษาส้นเท้าแตก
เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์ ปัญหาเรื่อง "ส้นเท้าแตก" อาจจะสร้างความกังวลให้กับเราได้ไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะตอนถอดรองเท้า ทำให้คนอื่นเห็นส้นเท้าที่แตก ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ และ บางคนที่มีอาการหนั กอาจถึงขั้นส้นเท้าแตกจนมีเลือดซึมและ รู้สึกเจ็บเวลาเดินได้ การรักษา "ส้นเท้าแตก" นอกจากจะช่วยเรื่องความสวยของเท้าแล้ว ยังทำให้เราลดความกังวลและความรำคาญลงไปได้ ก่อนที่จะปล่อยให้ส้นเท้าแตกไปมากกว่านี้ มีวิธีแนะนำดีๆ และ ง่ายๆ มาให้ลองทำกัน โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ในบ้านของเราเอง เพื่อจะได้รักษา "ส้นเท้าแตก" เราให้สวยและนุ่มยิ่งขึ้น 1. "เปลือกกล้วยหอม" นำเปลือกกล้วยหอมมาทาๆ ถูๆ บริเวณส้นเท้าที่แห้งอยู่ ถูไปมาแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที และ ล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดเท้าให้แห้ง แล้วตามด้วยครีมบำรุงส้นเท้า และ สวมถุงเท้าไว้สักพัก เพื่อให้ส้นเท้าไม่เสียความชุ่มชื้น ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ทำต่อเนื่องประมาณ 1 เดือนก็จะเห็นผลที่ดีขึ้น 2. "น้ำผึ้ง" นำน้ำผึ้งผสมลงไปในน้ำอุ่น แช่เท้าลงในอ่างและนวดเบาๆ เป็นเวลา 20 นาที จากนั้นค่อยๆ เอาหินมาขัดๆ ถูๆ เพื่อขจัดผิวที่ตายแล้วและอย่าลืมทาครีมบำรุงเท้าด้วย วิธีนี้สามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอก่อนเข้านอน 3.
แต่ไม่ควรเกิน 10 ชม.
ใช้โลชั่น / ครีมบำรุงเท้า เท้าเราออกแบบมาเพื่อปกป้องผิวที่เราเดิน ผิวเท้าจึงแห้งกว่าส่วนอื่น ๆ ของร่างกายโดยธรรมชาติด้วยชั้นป้องกันที่หนากว่า ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ความชุ่มชื้นแก่เท้าของคุณทุกวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการขัดผิวและอย่าลืมด้วยโลชั่นทาเท้าหรือครีมบำรุงผิว เวลาที่ดีที่สุดในการทาครีมบำรุงผิวคือในขณะที่เท้าของคุณยังชื้นอยู่ ง่ายๆเลยคือครีมบำรุงหลังอาบน้ำค่ะ 5. ใช้ถุงเท้าให้ความชุ่มชื้น สวมถุงเท้าให้ความชุ่มชื้นหลังจากที่คุณทาครีมบำรุงผิวลงบนเท้าแล้ว ถุงเท้าสามารถเร่งการดูดซึมของครีมได้โดยการทำให้เท้าของคุณอุ่นขึ้นและทำให้ครีมเข้าที่ การบำรุงที่เข้มข้นนี้ช่วยปรับปรุงสภาพเท้าที่แห้งและหยาบกร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ 6. ใช้สเปรย์ฉีดรองเท้า เคยรู้สึกอายขณะถอดรองเท้าเนื่องจากเท้ามีกลิ่นเหม็นและรองเท้าเหม็นเนื่องจากเหงื่อออกมากเกินไปหรือไม่? เชื่อว่าหลายคนขาดความมั่นใจไปเลย การใช้สเปรย์ฉีดเท้าหรือรองเท้าช่วยให้คุณถอดรองเท้าได้อย่างมั่นใจโดยต่อสู้กับแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นเท้าด้วยนะคะ 7. ใช้ยาทาเล็บ อย่าลืมยาทาเล็บสีที่คุณชื่นชอบ สไตล์ของคุณ เลือกสีที่เผ็ดแซ่บ รับรองว่าเท้าของคุณจะสวยปังขึ้น จะไม่สมบูรณ์หากไม่มีเฉดสีสวย ๆ เก๋ ๆ เหล่านี้!