สิทธิที่จะได้ค่าอุปการะเลี้ยงดูนั้นจะสละหรือโอนมิได้และไม่อยู่ในข่ายแห่งการบังคับคดี ตามมาตรา 1598/41 ดังนั้นถือว่าค่าอุปการะเลี้ยงดูนี้จึงถือว่าเป็นทรัียพ์นอกพาณิชย์ ห้ามโอนสิทธิกันเด็ดขาด ตามประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 143 จำนวนคนดู 830
5 x 6 เซนติเมตร ซึ่งถ่ายมาแล้วไม่เกิน 6 เดือน จำนวนท่านละ 2 รูป รูปครอบครัว รูปภาพบ้านและสภาพภายในบ้าน หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน หนังสือแจ้งรายการทรัพย์สินส่วนตัว หนังสือรับรองอาชีพและรายได้ หนังสือรับรองจากผู้ที่เชื่อถือได้อย่างน้อย 2 ราย แบบคำขอรับเด็กเป็นเป็นบุตรบุญธรรม
หลังตกเป็นข่าวเพราะเพจเฟซบุ๊กนำลูกของตัวเองไปประกาศขาย วันนี้เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงพื้นที่ตรวจสอบความป็นอยู่ และได้พบกับแม่ของเด็ก ก่อนทราบข้อเท็จจริงว่า แม่ของเด็กที่เป็นใบ้ถูกล่วงละเมิดทางเพศและยังไม่มีกระบวนดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ เธอยอมรับว่า อยากให้คนที่มีความพร้อมอุปการะเลี้ยงดูบุตรของเธอ และเธอเองต้องการกลับไปเรียนให้จบชั้นม. 6 เพื่อมีอาชีพต่อไป ญาติทารก ปัด ค้ามนุษย์ ยัน ลงเพจหาคนอุปถัมภ์ เป็นการเปิดใจผ่านล่ามภาษาของหญิงพิการ แม่ทารกวัย 5 เดือน ที่ถูกเพจเฟซบุ๊กประกาศขายและหาผู้อุปการะ ระหว่างเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ประจวบคีรีขันธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบความเป็นอยู่ที่บ้านพักในตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยหญิงพิการแม่ของทารกวัย 5 เดือน รายนี้ อาศัยอยู่กับญาติที่มีอาชีพเผาถ่านขาย รวม 11 คน ช่วงหนึ่งเธอได้คุยผ่านล่ามภาษามือที่เดินทางมากับเจ้าหน้าที่พม. ว่า เธออยู่ในภาวะเครียดและสภาพจิตใจย้ำแย่ หลังถูกชายพิการในพื้นที่ใกล้เคียงล่อลวงไปล่วงละเมิดทางเพศ จนตั้งครรภ์ก่อนจะคลอดลูกคนนี้มา โดยยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้สมยอม และยังต้องการดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ ส่วนลูกน้อยที่เกิดขึ้น เธออยากให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าตัวเอง จึงยอมให้ดาบตำรวจคนที่ตกเป็นข่าวรับอุปการะไปเลี้ยง ส่วนตัวเธอเองต้องการกลับไปเรียนต่อให้จบม.
สิทธิที่จะได้ค่าอุปการะเลี้ยงดูนั้นจะสละหรือโอนมิได้และไม่อยู่ในข่ายแห่งการบังคับคดี ตามมาตรา 1598/41 ดังนั้นถือว่าค่าอุปการะเลี้ยงดูนี้จึงถือว่าเป็นทรัียพ์นอกพาณิชย์ ห้ามโอนสิทธิกันเด็ดขาด ตามประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 143 หน้าที่ของทนายความคดีหย่าต้องดำเนินการเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดู 1. เตรียมคดี โดยการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ ทั้งจากฝ่ายลูกความและบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย 2. ตรวจสอบความเรียบร้อยของเอกสารว่าลูกความว่ามีครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ เพราะคดีเกี่ยวกับการเรียกค่า อุปการะเลี้ยงดูอาจมีเอกสารราชการหรือเอกสารมหาชนเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ทะเบียนสมรส เอกสารการจด ทะเบียนรับรองบุตร เป็นต้น 3. ตรวจสอบสิทธิ, หน้าที่ ทั้งหมดของลูกความและบุคคลฝ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น เหตุที่ทำให้มีสิทธิเรียกค่า อุปการะเลี้ยงดู เหตุที่ทำให้ศาลสั่งให้ไม่ต้องจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดู หรือเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจำนวน ค่าอุปการะเลี้ยงดู เป็นต้น 4. ค้นหาข้อกฎหมาย ตรวจสอบคำพิพากษศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง และอายุความหรือระยะเวลาในการดำเนินคดี ของลูกความ 5. ดูแลผลประโยชน์ของลูกความในผลความคืบหน้าของคดีอย่างสม่ำเสมอ 6.