หมวดข้าว - แป้ง (Rice & Flour) ข้าวขาว 1 ส่วน เท่ากับ 1 ทัพพี (โดยประมาณ) มีคาร์โบไฮเดรต 18 กรัม โปรตีน 2 กรัม ไม่มีไขมัน ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี่ คำแนะนำในหมวดข้าว - แป้ง สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน 1. ควรรับประทานเป็นข้าวกล้อง ข้าวไม่ขัดสี ขนมปังโฮลวีต แทนข้าวขาว หรือข้าวเหนียว **สำหรับผู้ที่เป็นโรคไตเรื้อรัง แนะนำให้รับประทานเป็นข้าวขาว เนื่องจากข้าวกล้องมีฟอสฟอรัสสูง 2. หากรับประทานวุ้นเส้น เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ข้าวโพด เผือก มัน ฟักทอง ต้องแลกเปลี่ยนกับอาหารที่รับประทานในมื้อหลัก 3. หลีกเลี่ยงซีเรียลเคลือบน้ำตาล ขนมอบ ของหวาน เบเกอรี่ ขนมไทย 2. หมวดผลไม้ (Fruit) ผลไม้ 1 ส่วน เท่ากับ 1 กำปั้นมื้อ/จานเล็ก โดยมีคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม พลังงาน 60 กิโลแคลอรี่ แบ่งได้ 6 ประเภท ดังนี้ คำแนะนำในหมวดผลไม้ สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน 1. แนะนำให้รับประทานมื้อละ 1 ส่วน (จานเล็ก) ใน 1 วัน รับประทานได้ 3 มื้อ 2. น้ำผลไม้ ควรเป็นน้ำผลไม้ที่คั้นแล้วไม่เติมน้ำตาล และแลกเปลี่ยนกับผลไม้สดปริมาณ 1 ส่วน เช่น น้ำส้ม 1/2½ ถ้วยตวง (120 มิลลิลิตร) 3. หลีกเลี่ยงผลไม้เชื่อม ผลไม้อบแห้ง ผลไม้กวน ผลไม้บรรจุกระป๋อง และควรหลีกเลี่ยงเครื่องจิ้มผลไม้ เช่น น้ำตาล เกลือ น้ำปลาหวาน 3.
/วัน <2400 มก. /วันในผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูง <2000 มก/วันในผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูงและเป็นโรคไต แอลกอฮอล์ เบียร์ไม่เกิน 2 กระป่อง วิตามิน เหมือนคนปกติ ไม่แนะนำให้ใช้ vitamins E, C และ carotene เนื่องจากไม่มีประโยชน์ เมื่อไร่จะเรียกว่าอ้วน การจะพิจารณาว่าอ้วนหรือไม่จะพิจารณาจากดัชนีมวลกาย Body mass index [BMI] =น้ำหนัก (กก)/ส่วนสูง(ม²) ค่าปกติอยู่ระหว่าง 18. 5-22. 9 กก/ม² BMI>25 กก/ม²ให้ถือว่าอ้วน BMI >30 กก/ม²อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องรีบลดน้ำหนัก สารอาหารโปรตีน โปรตีนเป็นส่วนประกอบพื้นฐานโครงสร้างของเซลล์ ฮอร์โมนหลายๆอย่าง สารอาหารโปรตีน 1กรัมให้พลังงาน 4 กิโแคลอรีแนะนำให้รับประทานปริมาณโปรตีน 0.