ศ. 2008 ตามรายงานของ องค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี ค. 2014 มลพิษทางอากาศคร่าชีวิตคนประมาณ 7 ล้านคนทั่วโลกในปี ค.
ฟอร์มอลดีไฮด์ สารจำพวกนี้มักพบได้ในชีวิตประจำวันเช่น น้ำมันพืช แชมพู กระดาษชำระ รวมไปถึงควันบุหรี่ ถ้าร่างกายได้รับสารดังกล่าวในปริมาณที่มากในระยะเวลาอันสั้นจะทำให้เกิดการระคายเคืองที่ตา จมูกและเกิดอาการภูมิแพ้ แต่หากได้รับในปริมาณที่มากในช่วงระยะยาวจะส่งผลทำลายระบบประสาท ระบบการย่อยอาหารรวมไปถึงก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ 6. สารกัมมันตรังสี จริงๆแล้วสารจำพวกนี้ส่วนใหญ่จะสะสมอยู่ในชั้นหินและชั้นดินภายในบริเวณบ้านนั่นเอง และจะปลดปล่อยออกมาในรูปของแก๊สซึ่งแก๊สดังกล่าวหากร่างกายได้รับในปริมาณมากอาจส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้ จากทั้งหมดที่กล่าวมานั้นจำทำให้ผู้อ่านเห็นได้ว่า มลภาวะทางอากาศ นั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุมากมาย เพียงแต่ว่าเมื่อเราทราบถึงสาเหตุแล้ว เราจะมีวิธีการป้องกันมันอย่างไร ยกตัวอย่างเช่นในกรณีของ ภาวะฝุ่นพิษ PM2.
อนุภาคของสารแขวนลอยในอากาศ ประกอบด้วยฝุ่น ควัน หมอกและไอน้ำซึ่งลอยปะปนอยู่ในชั้นบรรยากาศ ซึ่งถ้าเกิดเข้าตาอาจทำให้ระคายเคือง หรืออาจสะสมจนเกิดการอักเสบรุนแรงต่อดวงตาของเรา แต่ถ้าเกิดจาการสูดดมเข้าไปในปริมาณมากก็อาจส่งผลไปถึงอวัยวะภายในร่างกาย ทำให้เกิดอาการเป็นพิษได้ 2. ควันบุหรี่หรือควันยาสูบ เป็นมลภาวะทางอากาศพิ้นฐานที่เรามักจะเจอในชีวิตประจำวัน ควันบุหรี่เหล่านี้ไม่เพียงแต่จะทำร้ายร่างกายผู้สูบเท่านั้น มันยังส่งผลร้ายต่อบุคคลรอบข้างถึงแม้จะไม่ได้เป็นผู้สูบก็ตาม ทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งปอด โรคหืด หรือการติดเชื้อในปอดได้เช่นเดียวกัน 3. สารปนเปื้อนทางชีวภาพ สารตัวนี้เป็นสารที่เกิดขึ้นในธรรมชาติและล่องลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศ เช่น ละอองเกสรดอกไม้หรืออับสปอร์ สารเหล่านี้เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคหืด หอบ ภูมิแพ้ หรือโรคเยื่อบุตาอักเสบได้ 4. สารประกอบอินทรีย์ที่ระเหยเป็นไอได้เร็ว สารจำพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นสารระเหยที่มาจากสีทาบ้าน สีน้ำมัน หรือแม้แต่การระเหยจากน้ำมันปริโตเลียม สารเหล่านี้เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่ตา จมูกและคอ ในบางครั้งอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดหัว วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้และที่ร้ายแรงที่สุดคือทำให้ระบบการทำงานของตับล้มเหลว 5.
มลภาวะทางอากาศ เกิดจากอะไร? ในโลกยุคปัจจุบันที่จำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบรอบด้านไว้เว้นแม้แต่ มลภาวะทางอากาศ (air pollution) โดยเฉพาะสถาณการณ์ปัจจุบันที่บ้านเรากำลังโดนผลกระทบจากฝุ่นพิษ PM 2.
ปั๊มจ่ายน้ำมัน ลองสังเกตปั๊มจ่ายน้ำมัน อาจมีการชำรุด ควรตั้งปั๊มหัวฉีดให้จ่ายน้ำมันได้ตามกำหนดและส่วนผสมที่ตรงตามอัตรา หากสึกหรอมากจะไม่สามารถตั้งค่าได้ ควรเปลี่ยนใหม่ทันที 5.
🤔 ยังมีความจริงอีกอย่างที่ว่า ไขมันเองก็มีการป้องกันการเหม็นหืนตามธรรมชาติของมันอยู่แล้ว เช่น ในน้ำมันพืชมีวิตามิน E ช่วยป้องกันอยู่ รวมทั้งน้ำมันที่วางขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ก็มีการเติมสารที่เรียกว่า BHA หรือ BHT ช่วยป้องกันการเหม็นหืนของน้ำมันได้อีกด้วย กลิ่นหืน ในอาหารทอด เกิดขึ้นได้อย่างไร และสามารถป้องกันได้จริงหรือ?
แหล่งกำเนิดมลภาวะทางอากาศ 1. การเผาไหม้เชื้อเพลิงของกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ รถยนต์ การเผาขยะมูลฝอย การผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง เป็นต้น ซึ่งทำให้เกิดก๊าซต่างๆ เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ขี้เถ้า และออกไซด์ของโลหะ เป็นต้น 2. การฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองและอนุภาคต่างๆ จากกิจกรรมผสม บด โม่ การก่อสร้าง และการขนส่งวัสดุและสินค้า 3. โรงงานอุตสาหกรรมผลิตหรือแปรรูปวัตถุดิบ ได้แก่ การผลิตสารเคมี กระดาษ ปุ๋ย เหล็กกล้า อลูมิเนียม เป็นต้น ซึ่งอาจมีการปล่อยสารพิษออกมาเช่น ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ ออกไซต์ของซัลเฟอร์แอมโมเนีย ไออตะกั่ว สารหนู เป็นต้น 4. การเกษตร เช่น การเผาพื้นที่ทำการเกษตร การฉีดพ่นสารเคมี ทำให้เกิดสารมลพิษจำพวก สารหนู สารตะกั่ว ควัน และขี้เถ้า เป็นต้น 5. เตาปฏิกรณ์ เช่น การผลิตกระแสไฟฟ้า การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ เป็นต้น ทำให้เกิดฝุ่นละอองของยูเรเนียม 6. แหล่งกำเนิดจากธรรมชาติ เช่น ไฟป่า การเกิดปฏิกิริยาชีวเคมี ได้แก่ การเน่าเปื่อยและหมักของสารอินทรีย์ในน้ำ ดิน จะทำให้เกิดก๊าซมีเทน คาร์บอนไดออกไซด์ แอมโมเนีย เป็นต้น
เครื่องหลวม เครื่องหลวมหมายถึง อุปกรณ์ชิ้นส่วนในกระบอกสูบ เช่น แหวนลูกสูบ ปะเก็นฝาสูบ ท่อตาน้ำมันเครื่อง ยางซีลวาล์วเสื่อมสภาพ และทำให้น้ำมันหล่อลื่นไหลลงมาปะปนภายในห้องเผาไหม้ หรือในรุ่นเครื่องยนต์มีเทอร์โบอาจเกิดจากแกนเทอร์โบหลวมจนน้ำมันเครื่องไหลออกไปผสมกับไอเสียที่โข่งหลังของเทอร์โบและก่อให้เกิดเขม่าขึ้นมา ซึ่งโดยทั่วไปควันลักษณะนี้มักมีสีเทาๆ วิธีแก้ไข ควันดำ ต้องทำอย่างไร? 1. น้ำมันเครื่อง อย่างที่บอกว่าน้ำมันเครื่องสำคัญกับการทำงานของเครื่องยนต์มาก ๆ เพราะฉะนั้นคุณควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามเวลาที่กำหนด อย่าใช้งานรถจนน้ำมันเครื่องเป็นสีดำและข้นจนเกินไป หากเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยลดปัญหาอื่น ๆ ของรถยนต์ได้ด้วย 2. หม้อกรองอากาศ หมั่นทำความหม้อกรองอากาศอยู่เสมอ อย่าลืมตรวจสภาพเพื่อดูว่ามีการอุดตันหรือไม่ จะได้เปลี่ยนใหม่ได้ทันเวลา 3. ท่อไอเสีย ท่อไอเสียเป็นทางผ่านของเสียในรถยนต์ จึงมีคราบและสิ่งสกปรกเป็นจำนวนมาก จึงควรทำความสะอาดเพื่อชะล้างคราบเขม่าที่ตกค้างภายในท่อไอเสียอยู่เสมอ แถมยังช่วยลดมลพิษสู่อากาศภายนอกด้วย 3. ลูกสูบ ตรวจสภาพลูกสูบ แหวนลูกสูบ ว่าเสื่อมสภาพหรือไม่ หากเป็นรถยนต์ที่ใช้งานมานานควรเปลี่ยนอุปกรณ์เหล่านี้บ้างเพราะการใช้งานเป็นเวลานานทำให้เกิดการสึกหรอ 4.